แน่นอนว่าถ้าดูจากตารางรอบ 16 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ฝั่งซ้ายนี่เรียกได้ว่ามีครบทั้ง เสือ สิงห์ กระทิง แรด เลยเมื่อเทียบกับทางฝั่งขวามือแล้ว ทีมเต็งมากองรวมอยู่ทางฟากนี้กันแทบทั้งหมด ว่าแล้วก็ขอไล่เรียงไปเลยก็แล้วกันครับ

เริ่มต้นกันที่ทีมชาติสเปน นี่คือทีมที่ผลงานดีที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการคว้าชัยชนะ 3 เกมรวดและยังไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว ต้องมาเจอกับทีมชาติจอร์เจีย ที่พลิกล็อกเอาชนะทีมชาติโปรตุเกส มาได้ในเกมล่าสุด และเข้ามาในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจนได้

ตามมาด้วยเจ้าภาพอย่างทีมชาติเยอรมนี ซึ่งผลงานของพวกเขาก็กระเตื้องขึ้นเยอะจากทัวร์นาเม้นต์ก่อนหน้านี้ ต้องมาเจอกับทีมชาติเดนมาร์ก ที่ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม C ด้วยผลงานเสมอทั้ง 3 เกมและเฉือนกับทีมชาติสโลวีเนียด้วยผลต่างของใบเหลือง

คู่ต่อไปก็คือ สโลวีเนีย นั่นแหละครับที่เสมอมา 3 เกมรวดเช่นเดียวกัน ต้องเจอกับ โปรตุเกส ที่ฟอร์มการเล่นสะเด่าพอควร จนกระทั่งมาโรเตชั่นนักเตะและแพ้ให้กับ จอร์เจีย ในเกมนัดสุดท้าย

บิ๊กแมตช์ทางฟากซ้ายเลยก็ว่าได้สำหรับคู่นี้ ฝรั่งเศส จะต้องดวลกับ เบลเยียม ซึ่งถ้าจะว่ากันตามตรงก็ต้องบอกว่าผลงานต่ำกว่ามาตรฐานทั้ง 2 ทีมเลย เพราะพวกเขาเข้ามาด้วยอันดับ 2 ของกลุ่ม E และ D ตามลำดับ ถ้าหากดูจากทีมร่วมกลุ่มแล้ว ทั้งคู่น่าจะคว้าแชมป์กลุ่มกันได้ไม่ยากเลย

คราวนี้โยกมาทางฝั่งขวากันบ้างครับ เริ่มกันที่ทีมชาติโรมาเนีย ที่ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มมาได้หน้าตาเฉยเลย ต้องมาเจอกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังพอควรเลยนะ จากการที่พวกเขาจบลงด้วยอันดับ 3 ของกลุ่ม

ทีมชาติออสเตรีย นี่ผมขอยกให้เป็นม้ามืดที่น่าจับตามองที่สุดใน ยูโร หนนี้เลย แม้ว่าจะแพ้ในเกมแรก แต่ก็เอาชนะมาได้ใน 2 เกมท้ายจนปาดหน้า ฝรั่งเศส และคว้าแชมป์กลุ่มมาได้ โดยที่จะพบกับทีมชาติตุรกี ที่ในปีนี้ก็ดูน่าสนใจไม่แพ้กันเลย

ต่อกันด้วยทีมขวัญใจมหาชนอย่างทีมชาติอังกฤษ ซึ่งต้องชื่นชมเลยว่าช่วยให้คนที่หลับยาก ได้นอนหลับกันง่ายขึ้น พวกเขาเล่นกันได้น่าเบื่อเสมอต้นเสมอปลายในทุกเกมเลย แล้วต้องมาเจอกับทีมชาติสโลวาเกีย เกมนี้นี่ผมขอก็แนะนำเลยครับ ใครมีปัญหาเรื่องการนอน เฝ้าหน้าจอรอดูคู่นี้ได้เลยครับ

คู่สุดท้ายของรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็คือทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทีมที่มักจะเล่นได้อย่างเหนียวแน่นในรายการเมเจอร์ เจอทีมใหญ่เล่นดีตลอด ต้องมาเจอกับทีมชาติอิตาลี ที่ฝ่าด่านอรหันต์ทั้ง สเปน และ โครเอเชีย เข้ารอบมาได้ในฐานะอันดับ 2 ของ ‘กรุ๊ปออฟเดธ’

ก็หลังจากที่โม่แข้งในรอบแบ่งกลุ่มจบไปในคืนวันพุธ ก็จะมีเวลาให้แฟนบอลอย่างเราได้พักสายตากัน 2 คืน ก่อนที่จะเริ่มต้นรอบน็อคเอาท์ในคืนนี้ (วันเสาร์) นี่แหละครับ ซึ่งที่ผมเขียนมาก็ไม่ได้เรียงตามคู่แข่งขันนะครับ เช็คโปรแกรมกันได้ในเว็บไซต์ของเราเลย

ทั้งนี้ก็เหลือเวลาอีกราว 2 สัปดาห์เท่านั้นก่อนที่ศึก ยูโร 2024 จะได้บทสรุปว่าทีมใดที่จะก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ในท้ายที่สุด ก็ต้องรอลุ้นรอดูกันต่อไปเรื่อย ๆ แล้วที่สำคัญดูบอลดึกก็อย่างลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ

เขียนโดย The Lite Team.

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.